การตรวจเอชไอวี ในปัจจุบันมีความสะดวกสบายขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากที่คุณจะตรวจได้ฟรีปีละ 2 ครั้งที่โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศแล้ว คุณยังสามารถรู้ผลได้อย่างรวดเร็วภายในวันเดียวอีกด้วย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอนานเหมือนอย่างแต่ก่อน การตรวจเอชไอวีจึงเข้าถึงได้ง่าย แต่หลายคนยังคงลังเล ไม่กล้าที่จะไปตรวจเลือดแม้จะมีความเสี่ยงสูงก็ตาม วันนี้ เรามีเหตุผล 6 ข้อดี ๆ ที่เพราะอะไรเราจึงควรตรวจเอชไอวีมาฝากครับ
ทำไมเราถึงควรตรวจ HIV ?
- ตรวจเอชไอวี ลดความเครียด ลดความวิตกกังวล
- ตรวจเอชไอวี ช่วยให้ผู้ที่มีเชื้อเข้าสู่การรักษาได้ทันที
- ตรวจเอชไอวี เป็นจุดเริ่มต้นของการป้องกันตัวเองที่ดี
- ตรวจเอชไอวี ทำให้วางแผนครอบครัวที่ดีได้ในอนาคต
- ตรวจเอชไอวี เพิ่มความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ตรวจเอชไอวี ช่วยให้กิจกรรมทางเพศของเราปลอดภัย
ตรวจเอชไอวี ช่วยลดความเครียด ลดความวิตกกังวล
ส่วนใหญ่ของผู้ที่ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสเอชไอวี มักจะมีความเสี่ยงมาแล้วทั้งนั้น จึงมีความกังวลใจว่า ตัวเองจะติดเชื้อหรือไม่ ความเสี่ยงที่อาจทำให้ได้รับเชื้อเอชไอวีมาได้แก่
- การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่สวมถุงยางอนามัย
- การมีเพศสัมพันธ์ในสภาวะที่ไม่พร้อม เมาขาดสติ
- การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือใช้บริการผู้ให้บริการทางเพศ
- การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
เมื่อตัดสินใจตรวจเอชไอวี และทราบผลตรวจที่ได้ จะช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลที่มีก่อนตรวจลงไปได้มาก ในกรณีที่ผลตรวจเป็นลบ ก็ทำให้คุณโล่งใจไปได้ และหากผลตรวจเป็นบวก ก็ทำให้คุณวางแผนในการใช้ชีวิตต่อไปได้ ไม่ใช่ค้างคา ไม่ทราบผลตรวจของตนเองเสียที บางคนคิดจินตนาการไปไกล รวมกับอาการวิตกกังวลต่าง ๆ ทำให้เครียดจนรู้สึกป่วย ไม่สบาย พาลคิดว่าอาการเหล่านี้ คือ อาการของผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ทั้งที่ความจริงแล้ว คนที่มีเชื้อ แทบจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้เห็นเลย สิ่งที่จะรู้ได้ มีเพียงการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อไวรัสเอชไอวีเท่านั้น
ตรวจเอชไอวี ช่วยให้ผู้ที่มีเชื้อเข้าสู่การรักษาได้ทันที
เมื่อผู้ตรวจทราบว่าตนเองมีเชื้อเอชไอวี แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลเหล่านั้น จะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ และนำคุณเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที ข้อดีของการรักษาที่รวดเร็วนี้ ส่งผลให้คุณไม่เจ็บป่วยง่าย ไม่เกิดโรคฉวยโอกาส อันเป็นสาเหตุนำไปสู่ภาวะโรคเอดส์ ซึ่งการรักษาเอชไอวี วิธีที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ คือ การทานยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฤทธิ์ของยาไปช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสเอชไอวีที่มีในร่างกาย หากผู้ติดเชื้อทานยาดีมีวินัย จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง ถึงแม้โรคนี้จะยังไม่สามารถหายขาดได้ แต่การทานยาต้านไวรัสเอชไอวีสม่ำเสมอ จะช่วยกดเชื้อให้เหลือน้อยมาก จนแทบตรวจไม่พบ เข้าสู่ภาวะ U=U ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ ทำให้ผู้ที่มีเชื้อ ไม่สามารถแพร่ไวรัสเอชไอวีให้กับคู่นอนได้ คุณจึงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ทำกิจกรรมทุก ๆ อย่างได้เหมือนคนอื่นโดยไม่ต้องกังวลใจเลย
ตรวจเอชไอวี เป็นจุดเริ่มต้นของการป้องกันตัวเองที่ดี
เมื่อตรวจเอชไอวี ก็หมายถึงคุณมีความใส่ใจในสุขภาพทางเพศของตัวเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะระวังไม่ให้เกิดความผิดพลาด และป้องกันตัวเองได้อย่างปลอดภัย ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เช่น
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
- ทานยาเพร็พอย่างถูกวิธี
- ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
- งดเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ขาดสติขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติ มีได้แต่ต้องฉลาดป้องกันด้วย เพราะการปลอดเชื้อ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ก็ย่อมดีกว่า หากรู้ก่อนก็ป้องกันตัวเองได้ก่อน ลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศอื่น ๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการรับผิดชอบต่อตัวเองแล้ว ยังส่งผลดีต่อคู่นอนหรือคนรักของคุณที่ได้รู้สึกสบายใจไร้กังวลอีกด้วย
ตรวจเอชไอวี ทำให้วางแผนครอบครัวที่ดีได้ในอนาคต
สำหรับใครที่วางแผนแต่งงาน มีครอบครัว การตรวจเลือดเอชไอวี เป็นเรื่องที่จำเป็นไม่แพ้กับการตรวจสุขภาพอื่น ๆ ของทั้งสองฝ่ายเลยทีเดียว เพราะเป็นการเช็คความพร้อมสำหรับการมีบุตร การตรวจเลือดก่อนจะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกของคุณติดเชื้อเอชไอวีรวมทั้งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้ หากผู้เป็นพ่อและแม่มีเชื้อ การตรวจเอชไอวี ก็ไม่ต่างจากการตรวจสุขภาพทั่วไปนัก แต่แพทย์จะมีการซักประวัติผู้ตรวจโดยละเอียด และเข้าสู่กระบวนการตรวจตามขั้นตอน เพื่อเตรียมพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น หากพบเชื้อก็สามารถรักษาได้ทันที โดยที่ไม่แพร่เชื้อไปสู่คนรักของตน และวางแผนการใช้ชีวิตครอบครัวต่อไปอย่างมีสุขภาพดีและมีความสุข
ตรวจเอชไอวี เพิ่มความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ก่อนและหลังการตรวจเอชไอวี แพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะมีการให้คำแนะนำ คำปรึกษา เกี่ยวกับไวรัสเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงโรคเอดส์แก่ผู้ตรวจด้วย ซึ่งไม่ใช่บทสนทนาทั่วไป ที่คุณจะสามารถพูดคุยได้กับคนทั่วไปได้ แพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะให้ความรู้ความเข้าใจในการป้องกันโรคที่ถูกต้อง ทำให้คุณได้เรียนรู้ข้อมูลใหม่ ๆ ที่ตลอดทั้งชีวิตอาจจะไม่ให้ความสนใจ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว หรือหากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับไวรัสเอชไอวีในข้อใด ก็สามารถสอบถามได้โดยตรง เพื่อคลายความสงสัยลงไปได้ สถานบริการที่ให้ตรวจเอชไอวี เจ้าหน้าที่จะได้รับการอบรมเฉพาะทางเกี่ยวกับด้านนี้ เพื่อที่คุณจะได้มีแนวทางในการป้องกันตนเองได้ ไม่ให้ติดเชื้อตลอดไป หรือในกรณีที่มีเชื้อ ก็จะได้มีเพื่อนคุยปรึกษา วิธีการรักษาและการดูแลตัวเองไม่ให้เจ็บป่วย
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้แก่
ซิฟิลิส | ฝีมะม่วง |
หนองในแท้ | หูดหงอนไก่ |
หนองในเทียม | ไวรัสตับอักเสบบี |
เริมที่อวัยวะเพศ | ไวรัสตับอักเสบซี |
แผลริมอ่อน | เชื้อเอชพีวี |
ตรวจเอชไอวี ช่วยให้กิจกรรมทางเพศของเราปลอดภัย
ในกรณีผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติ เพียงแต่ต้องป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัยที่ถูกต้องร่วมกับการทานยาอย่างเคร่งครัดด้วย ในปัจจุบัน มีตัวยาที่ช่วยป้องกันเอชไอวีได้มากกว่า 90% ออกมาเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญ สำหรับผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีความเสี่ยงหลายครั้ง รวมถึงคู่รักที่มีผลเลือดต่าง ที่มีชื่อว่า “ยาเพร็พ (PrEP)” คือยาต้านไวรัสสำหรับผู้ที่ยังไม่มีเชื้อเอชไอวีเท่านั้น โดยจะทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อทุกวัน วันละหนึ่งเม็ดต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวี ตัวยาที่ทานเข้าไปนี้จะช่วยยับยั้งไวรัสไม่ให้แตกตัวและแพร่กระจายในร่างกายได้ แต่ก็ควรใช้ยาเพร็พ ร่วมกับการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเพื่อประสิทธิผลสูงสุดและมีความปลอดภัย
ยาเพร็พ (PrEP) ไม่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป เพราะเป็นยาที่ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ก่อนการเริ่มยาจะต้องมีการตรวจเอชไอวีและค่าอื่น ๆ ของร่างกายที่เกี่ยวข้องเสียก่อน รวมทั้งผู้ที่ใช้ยานี้จะต้องมีการตรวจติดตามผลอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 3 เดือนด้วยครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี
ถาม : นานแค่ไหนกว่าจะได้รับผลตรวจเอชไอวี ? | |
ตอบ = ผลตรวจเอชไอวีโดยปกติสามารถรับผลตรวจได้ภายใน 1 วัน ซึ่งแล้วแต่การทำงานของแต่ละสถานพยาบาล และวิธีการตรวจเอชไอวีด้วย |
ถาม : จำเป็นต้องถูกซักประวัติมากน้อยเพียงใด ? | |
ตอบ = แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ จำเป็นต้องซักประวัติผู้ตรวจก่อนทำการตรวจเท่าที่จำเป็น เพื่อประเมินความเสี่ยง ตามมาตรฐานขั้นตอนการปรึกษา และข้อมูลจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ |
ถาม : ผลการตรวจระบุว่า Non-reactive หมายความว่าอย่างไร ? | |
ตอบ = หมายความว่า ผลปกติ ไม่ติดเชื้อเอชไอวี |
ถาม : ควรตรวจเอชไอวีบ่อยแค่ไหน ? | |
ตอบ = แนะนำให้ตรวจเอชไอวีอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และควรตรวจหลังมีความเสี่ยงทุกครั้ง รวมไปถึงการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ด้วย |
ถาม : ระยะฟักตัว หรือ Window Period คืออะไร ? | |
ตอบ = ระยะที่เชื้อเอชไอวีฟักตัว ซึ่งในระหว่างนี้จะไม่สามารถตรวจพบเชื้อได้ ระยะเวลาที่สามารถตรวจได้ตามวิธีการตรวจเอชไอวีในปัจจุบัน สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ 7 วัน, 2 สัปดาห์ และ 1 เดือนขึ้นไป หลังมีความเสี่ยง |
จากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา ทุกคนคงทราบแล้วว่า การตรวจเอชไอวีมีประโยชน์มากมาย เมื่อเราทราบสถานะของตนเอง เราก็จะสามารถวางแผนต่อไปได้ นำไปสู่การป้องกันและการรักษา เชื้อไวรัสเอชไอวีก็จะไม่ถูกส่งต่อออกไปในวงกว้าง ช่วยลดปัญหาผู้ป่วยโรคเอดส์ลงได้ในที่สุดครับ