ตรวจเอชไอวี..ประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด

ปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี และเอดส์ เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตทั่วโลก และยังเป็นโรคที่คุกคามมนุษยชาติที่ร้ายแรงที่สุดโรคหนึ่งในปัจจุบันนี้ เนื่องจากยังเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่สามารถรักษาผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ด้วยการทานยาต้านไวรัส เพื่อสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป จะดีกว่าไหมถ้าหากเราคิดจะป้องกันโรคนี้ไว้ก่อน ย่อมดีกว่าการรักษาแน่นอนใช่ไหมครับ

เอชไอวีคืออะไร?

beefhunt

เอชไอวี (HIV) ย่อมาจาก Human Immunodeficiency Virus เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัย และการสัมผัสเชื้อโดยตรงผ่านสารคัดหลั่ง เช่น เลือด, น้ำอสุจิ, น้ำเหลือง, และน้ำนมแม่ เอชไอวีเป็นสาเหตุของ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เชื้อเอชไอวีจะเข้าไปทำลายเซลส์เม็ดเลือดที่จำเป็นของร่างกาย (หรือที่เรียกว่า CD4) ทำให้ระบบภูมิต้านทานล้มเหลว และทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อน

การตรวจ เอชไอวี มีกี่แบบ

การตรวจแบบ Anti-HIV​​​​ 

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในช่วงระยะเวลานานกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา โดยการตรวจหาภูมิคุ้มกัน (antibody) ของร่างกายที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองการที่มีเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกาย สามารถให้ผลได้ใน 1-2 ชั่วโมงหลังการตรวจ ซึ่งผลที่ได้จะเป็นผลที่ย้อนหลังไปประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้

การตรวจแบบ NAT (Nucleic Acid Testing)

การหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี หรือแกนในของเชื้อ เป็นวิธีที่มีความไวที่สุด สามารถชี้วัดผลจากร่างกายย้อนหลังไปประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับความเสี่ยง วิธีนี้ใช้ในการตรวจคัดกรองเลือดผู้บริจาคโลหิต แต่ยังไม่นำมาใช้ในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อเอชไอวีในสถานพยาบาล

การตรวจแบบ Rapid HIV Test

ใช้เวลาในการรอผลเพียง 20 นาทีเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะได้ผลตรวจที่เร็วกว่าวิธีอื่น ๆ แต่ก็เป็นเพียงการตรวจเพื่อคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น แม้ว่าผลตรวจจะออกมาเป็นบวก (พบเชื้อ HIV) ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการตรวจซ้ำอีกครั้งด้วยวิธีการอื่นเพื่อยืนยัน

การตรวจหาแอนติเจนของเชื้อเอชไอวี

หรือ เรียกอีกชื่อว่า การตรวจแบบ NAAT – Nucleic Acid Amplification Testing จะทำการตรวจโปรตีนของเชื้อที่ชื่อว่า p24 (HIV p24 antigen testing) ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ตรวจการติดเชื้อในระยะแรกที่ผู้ได้รับเชื้อยังไม่สร้างแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี (Anti-HIV) หรือมีระดับแอนติบอดีที่ต่ำจนไม่สามารถตรวจวัดได้ สามารถตรวจได้ภายหลังการติดเชื้อประมาณ 14-15 วัน

ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง

HIV Self Testing เป็นอุปกรณ์สำหรับการทดสอบเชื้อไวรัสเอชไอวี ผู้ตรวจจะเก็บตัวอย่างจากเลือดที่ปลายนิ้วเพียง 1 หยด และแปลผลเบื้องต้นด้วยตัวเอง วิธีการตรวจแบบนี้ มีความเป็นส่วนตัว สามารถตรวจที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอดข้าวหรือน้ำแต่อย่างใด รู้ผลภายใน 1 นาที มีความแม่น 99%

ใครบ้างที่ควรไปตรวจ เอชไอวี

  • ผู้ที่ไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย
  • ใช้เข็มฉีดยาร่วมกันกับผู้อื่น
  • ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • ผู้ป่วยวัณโรค
  • มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่
  • การเตรียมพร้อม ก่อนสมรส และก่อนวางแผนตั้งครรภ์

ตรวจเอชไอวี ต้องรอกี่วัน ?

หลักการตรวจเอชไอวี จะขึ้นอยู่กับช่วงระยะฟักตัว หรือ Window Period เป็นช่วงที่หากร่างกายได้รับเชื้อมาแล้วจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันออกมาเพื่อต่อสู้กับไวรัส ซึ่งหากระยะเวลาน้อยเกินไปเราก็ไม่อาจตรวจเจอเชื้อเอชไอวี ได้นั่นเอง โดยปกติมักจะใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนถึงจะตรวจเจอระดับของภูมิคุ้มกันนี้ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ซึ่งหากคุณตรวจเลือดในช่วงก่อนหน้านี้อาจไม่พบเชื้อเอชไอวี ทั้ง ๆ ที่ความจริงอาจมีเชื้ออยู่ก็ได้

วิธีการตรวจ HIVระยะ Window Periodรู้ผลภายใน
Nucleic Acid Test : NAT5-7 วัน5 วัน
Anti-HIV น้ำยา 4thGen14 วัน1 วัน
Anti-HIV น้ำยา 3thGen21 วัน1 วัน
ชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง21 วัน – 3 เดือน1 นาที

ประโยชน์ของการตรวจ เอชไอวี

การตรวจเอชไอวีสามารถนำไปสู่ชีวิตที่มีประสิทธิผลดีขึ้น เป็นก้าวแรกในการเรียนรู้สถานะเอชไอวีของคุณ และเป็นก้าวแรกในการดูแลชีวิตของคุณ โดยการตรวจคุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณได้รับการรักษาโรคอื่นๆ ที่อาจติดเชื้อจากไวรัสเอชไอวี คุณจะสามารถเริ่มการรักษาเอชไอวีได้  การตรวจเอชไอวีไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณควบคุมชีวิตได้ แต่ยังช่วยลดมลทินจากโรคนี้ และช่วยให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น

  • สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันที
  • ได้รับการรักษา จะทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง
  • วางแผนป้องกันคู่ของตนเองติดเชื้อ และชวนคู่ไปตรวจเลือดได้ 
  • วางแผนป้องกันการติดเชื้อไปสู่ลูกได้ 
  • ป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อเอชไอวีได้

สามารถตรวจ เอชไอวี ได้ที่ไหนบ้าง?

คนไทยสามารถตรวจ เอชไอวี ฟรีได้ปีละ 2 ครั้ง เพียงแค่มีบัตรประชาชน ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ เฉพาะโรงพยาบาลรัฐและศูนย์อนามัย คลินิกที่ร่วมโครงการ หรือสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกได้ ซึ่งแต่ละที่จะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันออกไป ค่าบริการประมาณ 500 – 1,000 บาท/ครั้ง และอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่ไม่สะดวกเดินทางไปยังสถานพยาบาลต่าง ๆ ในช่วงที่มีโควิดระบาดอยู่ในตอนนี้ การตรวจด้วย ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง (HIV SELF TEST) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยให้คุณรู้สถานะเอชไอวีของตัวเองได้เบื้องต้น ช่วยลดความกังวลใจ และทำให้สามารถวางแผนการใช้ชีวิตต่อไปได้สามารถตรวจเองได้ที่บ้าน แม่นยำถึง 99 % และรู้ผลภายใน 1 นาทีเท่านั้นเอง

ปัจจุบันจะมีหน่วยงานต่างๆ ที่คอยช่วยพัฒนาวิธีการตรวจเอชไอวีให้สะดวกสบาย รวดเร็ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการตรวจ คือ การเตรียมความพร้อมของผู้ตรวจ กล้าที่จะเข้ารับการตรวจ เพราะยิ่งเข้ารับการตรวจได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งช่วยให้คุณสามารถวางแผนการใช้ชีวิตต่อไปได้เร็วขึ้น และ สบายใจขึ้น

สนใจจองคิวตรวจเอชไอวี รับ PrEP, PEP ฯลฯ สะดวก ง่าย และเป็นความลับ ได้ที่ LOVE2TEST จองฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

บทความที่เกี่ยวข้อง