ถึงแม้การตรวจเอชไอวี ในปัจจุบัน จะเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถเดินเข้าไปตรวจได้ ณ สถานพยาบาลทุกที่ ยิ่งหากคุณเป็นคนไทยที่ถือครองบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ ก็สามารถได้รับสิทธิการตรวจเอชไอวีฟรี ปีละ 2 ครั้ง จากโรงพยาบาลรัฐที่มีสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโรงพยาบาลที่คุณมีสิทธิประกันสังคมอยู่ ดังนั้น การที่รัฐเอื้ออำนวยให้การตรวจเลือดคัดกรองเชื้อไวรัสเอชไอวีง่ายขึ้น ทำให้กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงเข้ารับการตรวจได้อย่างรวดเร็ว และรู้ถึงสถานะเอชไอวีของตนเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือเป็นการเข้าสู่กระบวนการรักษา หากผลเลือดบวก หรือติดเชื้อเอชไอวี หรือช่วยให้คน ๆ นั้นป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น หากผลเลือดเป็นลบ หรือไม่ติดเชื้อ
เสี่ยงแบบไหนที่ควรตรวจเอชไอวี
เนื้อหาสรุป
- มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่สวมถุงยางอนามัย
- มีการใช้เข็มฉีดยาเสพสารเสพติดร่วมกับผู้อื่น
- ถุงยางอนามัยแตก รั่ว หรือฉีกขาดขณะมีเพศสัมพันธ์
- มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่คู่นอนประจำของคุณ
- โดนล่วงละเมิดทางเพศ หรือขาดสติขณะมีเพศสัมพันธ์
- ใช้อุปกรณ์สักหรือเจาะร่างกาย ที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง
- โดนเข็มหรือมีดทิ่มต่ำ ในกรณีที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์
นอกจากนี้ ถึงแม้คุณจะไม่มีความเสี่ยงดังกล่าวมาข้างต้น การตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวี ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่คุณควรใส่ใจเหมือนกับการตรวจสุขภาพประจำปีเลยทีเดียว เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าคู่นอนของเรามีความเสี่ยงกับคนอื่นหรือไม่ รวมถึงคู่สามีภรรยาที่ต้องการวางแผนมีลูกในอนาคต ก็ควรจะเข้ารับการตรวจเลือดทั้งคู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอชไอวีส่งต่อผ่านแม่ไปยังลูกน้อยในครรภ์ได้ครับ
หากคุณติดเชื้อเอชไอวีขึ้นมาจริง ๆ และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ไวรัสจะค่อย ๆ เข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้อ่อนแอ มีโอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย คุณก็จะป่วย และร่างกายทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ เมื่อไม่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีจากแพทย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อ อาจส่งผลต่อคนที่คุณรักที่อาจติดเชื้อจากคุณไปด้วย ถ้ามีเพศสัมพันธ์ที่ไม่สวมถุงยางอนามัย ดังนั้น การตรวจก่อน รู้ก่อน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากกับสุขภาพของคุณครับ
“ถึงจะรู้ว่าการตรวจ HIV ไม่ยุ่งยาก แต่ก็ยังไม่กล้าไปตรวจที่สถานพยาบาล”
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง จึงเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญ สำหรับผู้ที่ยังไม่สะดวกไปที่สถานพยาบาล เพื่อทำการเจาะเลือดตรวจเอชไอวี รอฟังผล และรับคำปรึกษาจากแพทย์ หรือในกรณีผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สะดวกเดินทางเข้ามายังโรงพยาบาลในตัวเมือง หรือด้วยสถานการณ์โควิด 19 ที่กำลังระบาดอยู่ ณ ตอนนี้ ทำให้คนไม่อยากเสี่ยงออกนอกบ้าน ก็สามารถหาซื้อชุดตรวจนี้ไปใช้เพื่อการคัดกรองเอชไอวีเบื้องต้นได้ หรือคนที่ต้องการตรวจซ้ำ เพื่อยืนยันความมั่นใจ หลังจากตรวจเลือดเอชไอวีจากที่อื่นมาแล้ว
รู้จักชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง
ชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง เป็นอุปกรณ์สำหรับการทดสอบเชื้อไวรัสเอชไอวี ผู้ตรวจจะเก็บตัวอย่างเลือด หรือน้ำในช่องปาก นำมาตรวจ และแปลผลเบื้องต้นด้วยตัวเอง วิธีการตรวจแบบนี้ มีความเป็นส่วนตัว สามารถตรวจที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอดข้าวหรือน้ำแต่อย่างใด ทั้งนี้ แนะนำให้คุณทำการตรวจเอชไอวีซ้ำอีกครั้ง เพราะการตรวจด้วยชุดตรวจนี้ เป็นเพียงการคัดกรองเอชไอวีเบื้องต้นเท่านั้น ควรต้องคำนึงถึงระยะฟักตัว (Window Period) หลังจากที่มีความเสี่ยงมาด้วย และไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังทานยาต้านไวรัส หรือเพร็พ (PrEP) อาจทำให้ผลการตรวจไม่ถูกต้อง
ชุดตรวจ HIV ราคาเท่าไหร่ ซื้อได้ที่ไหน
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง ตามท้องตลาดที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน จะมีราคาที่แตกต่างกัน โดย 1 ชุดตรวจราคาประมาณ 500-700 บาทต่อชุด ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และคุณภาพของชุดตรวจด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีจำหน่ายทางออนไลน์เป็นหลัก เป็นช่องทางที่ง่าย เพราะในสมัยนี้ใคร ๆ ก็มีมือถือและอินเตอร์เน็ตด้วยกันทั้งนั้น การติดต่อซื้อชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ จึงมีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เราแนะนำให้คุณติดต่อซื้อชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเองกับผู้นำเข้าสินค้าโดยตรง เพราะจะได้รับคำแนะนำในการใช้งานชุดตรวจที่ถูกต้อง หรือหากมีปัญหาใด ๆ ในการใช้ชุดตรวจก็สามารถกลับไปสอบถามได้ทันที และได้รับข้อมูลที่มีความถูกต้อง
อีกหนึ่งทางเลือก ณ ตอนนี้มีชุดตรวจ HIV ที่วางขายที่ร้านขายยาแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวก ในกรณีผู้ที่ต้องการตรวจเลือดในวันนั้นเลย ลดค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มเกี่ยวกับค่าขนส่ง หรือลดความไม่มั่นใจเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ลง เพราะชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง ที่มีจำหน่ายในร้านขายยา มีความน่าเชื่อถือ ไม่ต้องกลัวว่าเป็นของปลอม ของลอกเลียนแบบ หรือของนำเข้าผิดกฎหมายแต่อย่างใด ประโยชน์อีกข้อหนึ่ง หากคุณซื้อชุดตรวจผ่านร้านขายยา ผู้ซื้อยังสามารถขอรับคำแนะนำจากเภสัชกรที่จำหน่ายชุดตรวจได้ทันที เมื่อมีข้อสงสัยในการใช้งาน ทั้งนี้ผู้ซื้อควรพิจารณาถึงการเลือกซื้อชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง ดังต่อไปนี้
- ชุดตรวจควรมีเลขจดแจ้ง ที่ได้รับการอนุญาต จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถตรวจสอบได้จริง
- ได้รับมาตรฐานที่เชื่อถือได้ ตัวอย่างเช่น มาตรฐานสากล European Conformity (CE), มาตรฐานสากลจากองค์การอนามัยโลก WHO Pre-Qualified, มาตรฐานแคนาดา Health Canada เป็นต้น
- แสดงผลตรวจที่รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน และมีความแม่นยำสูง 99%
- มีคู่มือการใช้งานที่ละเอียด สามารถเข้าใจได้ง่าย และทุกคนสามารถตรวจได้ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
- ผลิตจากบริษัทที่เป็นผู้นำ ด้านการวิจัยและพัฒนาชุดตรวจทางการแพทย์ระดับโลก
- สามารถตรวจหาเชื้อ HIV ได้ทั้ง 2 ชนิด คือ HIV 1 และ HIV 2
ทำอย่างไรเมื่อผลเลือดเป็นบวก
หากตรวจแล้วพบเชื้อ นอกจากจะทำการตรวจเอชไอวีซ้ำเพื่อยืนยันผลอีกครั้งแล้ว คุณสามารถติดต่อไปยังหน่วยงานเหล่านี้ เพื่อขอรับคำปรึกษาและแนวทางในการรักษาเอชไอวีเบื้องต้นได้
สถานที่ | เว็บไซต์ | เบอร์โทรติดต่อ |
---|---|---|
ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย (คลีนิคนิรนาม) | https://th.trcarc.org | 02-251-6711 ถึง 5 |
สายด่วน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) | http://www.nhso.go.th | 1330 |
สายด่วน กรมควบคุมโรค | https://ddc.moph.go.th | 1422 |
สายด่วน ปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม | http://www.aidsaccess.com | 1663 |
สายสบายใจ | http://www.rsat.info | 090-648-7407 |
ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง ได้รับการปลดล็อคอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง สำหรับคนที่มีความเสี่ยง จะได้เข้าถึงการตรวจได้อย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องลางาน หรือหลบ ๆ ซ่อน ๆ ใครเพื่อไปตรวจเลือดที่สถานพยาบาล แถมอุปกรณ์ชุดตรวจยังสามารถทำได้ง่าย และตรวจได้ตลอดเวลา ถือเป็นการดูแลสุขภาพของตนเองและรับผิดชอบต่อคนรักของคุณอีกด้วย เพราะหากคุณรู้สถานะเอชไอวีของตนเองได้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้เร็วเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องรอให้เจ็บป่วย หรือไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะเข้าสู่ภาวะโรคเอดส์ และเสียชีวิตครับ