เซ็กส์ประตูหลัง เสี่ยง HIV มากกว่า

มันไม่ใช่เรื่องผิดหรอกนะถ้าคุณอยากจะมี เซ็กส์ประตูหลัง เพราะมันไม่ได้เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอะไรในสมัยนี้ ด้วยเรื่องเพศที่มีอยู่ไม่จำกัดแล้วในปัจจุบัน หรือแม้แต่ชายจริงหญิงแท้ ก็รู้สึกว่าการมี เซ็กส์ประตูหลัง เป็นรสนิยมทางเพศที่ตื่นเต้นเร้าใจ ไม่แพ้กับการสอดใส่ทางช่องคลอดปกติเลยก็ว่าได้ แต่คุณต้องเข้าใจก่อนว่า การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักนั้น นำมาซึ่งความเสี่ยงต่อโรคมากกว่าเราจึงควรเรียนรู้ในการป้องกันไว้ด้วยจะได้มีกิจกรรมทางเพศอย่างปลอดภัย

เซ็กส์ประตูหลัง เสี่ยง HIV มากกว่า

เซ็กส์ประตูหลัง ดีอย่างไร

เนื้อหาสรุป

การมีเซ็กส์ทางทวารหนัก เป็นกิจกรรมทางเพศที่บริเวณหูรูดทวารหนัก เป็นส่วนที่มีเส้นประสาทและเส้นเลือดจำนวนมาก เวลาร่วมเพศจึงรู้สึกไวต่อการสัมผัสมากกว่าช่องทางอื่น หากได้รับการกระตุ้นที่ถูกจุด จะทำให้ถึงฝั่งฝันได้ไวขึ้นได้ด้วย

  1. เซ็กส์ประตูหลังช่วยเพิ่มบรรยากาศให้กิจกรรมรักของคุณไม่ซ้ำซากจำเจ เพิ่มสีสันให้กับชีวิตคู่ได้
  2. การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ช่วยลดโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ในผู้หญิงได้ เพราะน้ำอสุจิไม่สามารถหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิภายในรังไข่ได้
  3. ช่วยให้ถึงจุดสุดยอดได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะฝ่ายรุก เพราะบริเวณหูรูดทวารหนักนั้นมีความแข็งแรงกว่ากล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอด

ท้วงท่าที่เหมาะสมกับการมี เซ็กส์ประตูหลัง

  • ท่า Cowgirl : ท่านี้เริ่มจากให้ฝ่ายหนึ่งนอนหงาย และอีกฝ่ายนั่งคร่อมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จากนั้นจึงค่อยๆ ทำการสอดใส่ ในท่านี้ฝ่ายที่อยู่ด้านบนอาจควบคุมจังหวะในการมีเซ็กส์ทางประตูหลังได้ดีกว่า
  • ท่า Doggie : หรือ “ท่าสุนัข” โดยท่านี้ เริ่มจากฝ่ายหนึ่งคุกเข่า มือยันพื้น คล้ายท่าคลาน ส่วนอีกฝ่ายประกบด้านหลัง แล้วสอดใส่อวัยวะเพศเข้าทางทวารหนัก
  • ท่า The Fan : ท่านี้ต่อจากท่าด๊อกกี้ แทนที่จะคุกเข่าอย่างเดียวก็ให้ฝ่ายหนึ่งยืนขึ้น และอาจจะใช้มือค้ำกับเตียง โต๊ะ เก้าอี้ หรือขอบเตียง โดยให้อีกฝ่ายสอดใส่จากด้านหลังเช่นกัน
  • ท่า Spoon : หรือ “ท่านอนตะแคง” โดยให้ทั้งสองฝ่ายนอนตะแคง หันหน้าไปทางเดียวกัน จากนั้นฝ่ายที่นอนประกบด้านหลังสอดใส่อวัยวะเพศเข้าทางทวารหนัก และอาจลูบไล้ร่างกาย หรือกระตุ้นจุดกระสันของอีกฝ่ายไปด้วยพร้อมๆ กัน
  • ท่านั่งตัก (Lap Dance) : ท่านี้เริ่มจากให้ฝ่ายหนึ่งนั่งบนเก้าอี้ โซฟา หรือขอบเตียง แล้วให้อีกฝ่ายนั่งบนตัก ก่อนสอดใส่อวัยวะเพศ ฝ่ายที่นั่งอยู่ด้านล่าง อาจกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายด้วยการลูบไล้ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศยิ่งขึ้น

ข้อควรระวัง เกี่ยวกับการมี เซ็กส์ประตูหลัง

อาการบาดเจ็บ

Quicky

แน่นอนว่า ทวารหนักไม่ใช่ช่องทางธรรมชาติที่จะมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากบริเวณนั้นมีเยื่อบุที่ค่อนข้างบอบบาง และภายในไม่มีน้ำหล่อลื่นเหมือนกับช่องคลอด การมีเซ็กส์ทางทวารหนักอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ เกิดลำไส้ฉีกขาด ถลอก มีแผล หรือกล้ามเนื้อหูรูดหย่อนยาน ทำให้กลั้นปวดถ่ายไม่อยู่ บางรายก็รุนแรงถึงขั้นริดสีดวงแตกได้หากไม่ระวังมากพอ รวมถึงอาจทำให้เกิดแผลในลำไส้ เพราะมีเลือดออก

อาการติดเชื้อในลำไส้

ทวารหนักเป็นที่อยู่ของของเสียในร่างกาย ที่จะถูกขับถ่ายออกมาให้รูปแบบของอุจจาระ ที่มีเชื้อโรครวมอยู่หลากหลายชนิด การมีเซ็กส์ประตูหลังย่อมมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้หลายโรค เช่น พยาธิลำไส้ ไทฟอยด์ แบคทีเรีย ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบซี เป็นต้น นอกจากนี้ ถ้ามีการสลับช่องทางไปมาระหว่างช่องคลอดและทวารหนักอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดของผู้หญิง และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะของผู้ชายได้เช่นกัน

อาการโรคมะเร็ง

หากมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักแบบไม่ปลอดภัย ไม่สวมถุงยางอนามัย คุณมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีและเชื้อเอชพีวีที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ โรคมะเร็งทวารหนัก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งอวัยวะเพศได้

อยากมี เซ็กส์ประตูหลัง ที่ปลอดภัยต้องทำอย่างไร

อยากมีเซ็กส์ประตูหลังที่ปลอดภัยต้องทำอย่างไร?

  • อาบน้ำชำระล้างร่างกายและทำความสะอาดให้ดีก่อนการมีเพศสัมพันธ์ อาจใช้การสวนล้างที่บริเวณนั้นอย่างเบามือ อีกทั้งควรตัดเล็บมือให้สั้น เพื่อไม่ให้เกิดการข่วนหรือถลอกเป็นแผล เสี่ยงติดเชื้อได้
  • สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง อาจเลือกชนิดที่ค่อนข้างหนา และใช้เจลหล่อลื่นเข้าช่วยด้วยเสมอ เพราะทวารหนักไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นอวัยวะเพศโดยธรรมชาติ
  • เริ่มการสอดใส่อย่างช้าๆ ไม่ต้องเร่งรีบหรือทำอย่างรุนแรง เพื่อลดการบาดเจ็บและเกิดแผลในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นความเสี่ยงในการเกิดโรคได้มาก
  • คุณและคู่นอนอาจใช้การอาบน้ำหรือแช่น้ำอุ่นก่อนการมีเซ็กส์ และเลือกท่าทางเช่นการนอนคว่ำจะช่วยให้การสอดใส่ง่ายขึ้นและบรรเทาการบาดเจ็บลง
  • เรื่องเซ็กส์ไม่ควรต้องบังคับขืนใจให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ หากคู่ของคุณรู้สึกไม่โอเคหรือรู้สึกเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ก็ควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า
  • ไม่ควรเปลี่ยนช่องทาง สลับไปมา เช่น สอดใส่ทางช่องคลอด แล้วมาด้านหลัง แล้วไปทำรักทางปากเพราะทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ ถ้าจะเปลี่ยนช่องทางการมีเซ็กส์ ควรเปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้ง
  • หากกำลังมีเซ็กส์ประตูหลัง แล้วถุงยางอนามัยแตกหรือฉีกขาด ควรหยุดกิจกรรมทันที และรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับยาเป็ป (PEP) สำหรับป้องกันไวรัสเอชไอวี
  • ทานยาเพร็พ (PrEP) เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวีอีกชั้นหนึ่ง ในกรณีที่เกิดความผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยฉีกขาดระหว่างมีเซ็กส์ทางทวารหนัก

การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก คีย์หลัก คือ การเล้าโลมให้คู่นอนของคุณมีอารมณ์ให้มากที่สุด อาจเลือกใช้อุปกรณ์จำพวกเซ็กส์ทอยเข้าช่วย ก็จะทำให้บรรยากาศ และจังหวะการเข้าสอดใส่ง่ายยิ่งขึ้น จริงๆ แล้วการมีเซ็กส์ประตูหลังอาจไม่ใช่เรื่องรื่นรมย์สำหรับทุกคน แต่มันช่วยยกระดับความพึงพอใจต่อรสนิยมทางเพศส่วนบุคคลได้มากมาย ซึ่งเป็นอะไรที่น่าลิ้มลองเพื่อให้ชีวิตเซ็กส์ของคุณมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้ครับ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม

Similar Posts

  • เมื่อติดเชื้อเอชไอวี ร่างกายจะเป็นอย่างไร?

    คำว่า “เอชไอวี” (HIV) มักถูกเชื่อมโยงกับความกลัว ความกังวล และการตีตราในสังคม แต่แท้จริงแล้ว เมื่อติดเชื้อเอชไอวี ในปัจจุบันสามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนทั่วไปอย่างมาก สิ่งสำคัญคือ การทำความเข้าใจว่า เมื่อร่างกายได้รับเชื้อเอชไอวีแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น?

  • การตรวจเอชไอวีมีกี่แบบ?

    เมื่อการตรวจเลือดเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้คุณรู้ว่ามีเชื้อเอชไอวีอยู่หรือไม่ การตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวี ส่วนใหญ่จึงทำการตรวจได้จากเลือด ซึ่งมีวิธีอยู่ 5 แบบหลัก ๆ ได้แก่ การตรวจหาภูมิคุ้นเคยต่อเชื้อเอชไอวี (Antibody HIV) วิธีการตรวจชนิดนี้ เป็นการตรวจหาภูมิคุ้นเคย หรือที่เรารู้จักโดยทั่วไปคือ ภูมิคุ้มกันของร่างกายนั่นเอง แอนติบอดี…

  • CD4 ถูกทำลายจะเป็นอย่างไร ?

    CD4 ย่อมาจากคำว่า Cluster of Differentiation 4 บางครั้งถูกเรียกว่า T-cells หรือ T-helper cells CD4คือ เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ที่มีหน้าที่ควบคุม และต่อสู้กับเชื้อโรค และมีบทบาทในการจัดระบบภูมิต้านทานของร่างกายต่อการติดเชื้อ แบคทีเรีย…

  • /

    U = U (ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่)

    เมื่อเชื้อไวรัสเอชไอวีเข้าไปสู่ร่างกาย จะเข้าทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอม หรือเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้ามาสู่ร่างกาย จึงทำให้ผู้ป่วยมีระบบภูมิคุ้มกันที่ต่ำลงจนในที่สุด ร่างกายของผู้ป่วย ไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าไปสู่ร่างกายได้ และอาจเกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาสได้ เช่น วัณโรค เชื้อรา ปอดบวม เป็นต้น…

  • /

    ตรวจเอชไอวี สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

    ในการเผชิญกับ HIV/AIDS ตรวจเอชไอวี เป็นหนึ่งในวิธีการที่สำคัญที่สุดในการป้องกันเอชไอวี เพื่อพยายามลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและให้การดูแลและรักษาทันท่วงทีแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ความสำคัญของการตรวจเอชไอวี เป็นสิ่งที่ควรทำอันดับแรกในการระบุบุคคลที่ติดเชื้อ เพื่อทำให้สามารถเข้าถึงการรักษาและทำให้สามารถควบคุมสุขภาพของตนเองได้ แคมเปญการสร้างการรับรู้ การตระหนัก และความก้าวหน้าทางการแพทย์เอชไอวี จะทำให้เอชไอวีไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป เราจะศึกษาความสำคัญของการตรวจเอชไอวี และเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

  • ความเข้าใจผิดเรื่อง โรคติดต่อทางเพศ

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ โรคติดต่อทางเพศ มักจะนำไปสู่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และการตีตรา ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ คนที่สําส่อนเท่านั้นจะสามารถติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ในความเป็นจริง ใครก็ตามที่มีกิจกรรมทางเพศก็อาจมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ความเข้าใจผิดอีกประการหนึ่งคือ โรคติดต่อทางเพศ สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นเริมและไวรัสเอชพีวีสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง หรือแผลเริมได้ นอกจากนี้ บางคนยังเชื่อว่า หากไม่แสดงอาการก็ไม่ติดเชื้อเพราะ โรคติดต่อทางเพศ หลายชนิดแทบไม่แสดงอาการเลย ดังนั้นการตรวจหาเชื้ออย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงควรให้เรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเหล่านี้ที่ถูกต้องเพื่อขจัดความเข้าใจผิดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์