ถาม – ตอบ เกี่ยวกับโรคซิฟิลิส

ซิฟิลิส เป็นอีกโรคหนึ่งที่ร้ายแรงและมีคนเป็นโรคนี้จำนวนมาก เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยระมัดระวังในการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัย และมีคำถามมากมายเกี่ยวกับโรคซิฟิลิส

ถาม : ซิฟิลิสเกิดจากอะไร  ?  

ตอบ : ซิฟิลิส (Syphilis) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเชื้อแบคทีเรียเทรโพนีมา พัลลิดัม (Treponema pallidum) เชื้อโรคเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล เยื่อบุต่างๆ และ ทางผิวหนังตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อีกด้วย

Love2test”></a></div>




<h2 class=ถาม : ซิฟิลิสอาการเป็นอย่างไร ?

ตอบ : อาการของซิฟิลิสอาจจะเริ่มจากการที่มีผื่นขึ้น มีแผลที่แข็ง เช่น ริมฝีปาก อวัยวะเพศ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นแค่เพียงแผลใหญ่แผลเดียว เมื่อเริ่มมีอาการแล้วอยู่ๆ อาการเหล่านี้ก็หายไป แต่อย่าพึ่งวางใจ เพราะอาจจะอยู่ในช่วงระยะอาการแฝง คุณควรรีบไปพบแพทย์ทันทีที่รู้อาการ เพื่อทำการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ

ถาม : ซิฟิลิสมีกี่ระยะ ?

ตอบ : ซิฟิลิสแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ

  1. ซิฟิลิส ระยะแรก อาการเด่นคือเป็นแผลริมแข็ง ซึ่งมักพบหรือซ่อนอยู่ที่อวัยวะเพศชาย อัณฑะ ทวารหนัก ช่องคลอด ริมฝีปาก และมักเป็นเพียงแผลเดียว มีขอบนูนแข็ง แต่ไม่เจ็บ ไม่ปวด เกิดหลังมีเพศสัมพันธ์หรือได้รับเชื้อมาประมาณ 10-90 วัน หลังจากนั้นแผลสามารถหายได้เองภายใน 1-5 สัปดาห์ แม้ไม่ได้รักษา
  2. ซิฟิลิส ระยะสอง เมื่อแผลหายแล้ว คือหลังจากระยะแรกประมาณ 6 สัปดาห์ จะเริ่มมีผื่นขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลำตัว อาจกระจายไปทั่วร่างกาย เรียกว่า ระยะออกดอก บางคนอาจมีแผลคล้ายหูดขึ้นในปากหรืออวัยวะเพศ หรือมีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ต่อมน้ำเหลืองโต หรือมีผมร่วงเป็นหย่อม ๆ เหมือนโดนแมลงแทะ มีขนคิ้วร่วง หลังจากนั้นอาการอาจหายไปได้เองภายใน 1-3 เดือน
  3. ซิฟิลิส ระยะแฝง เมื่ออาการในระยะที่ 2 หายไปได้เองโดยที่ยังไม่ได้รักษา เชื้อจะยังคงอยู่ในร่างกายต่อไปได้อีกหลายปีโดยไม่ได้แสดงอาการผิดปกติอะไรออกมาอีก จึงเรียกว่า ระยะแฝง หรือระยะหลบซ่อน หากตรวจเลือดจะพบเชื้อในกระแสเลือด ขณะที่ในสตรีที่มาฝากครรภ์มักพบโรคซิฟิลิสระยะแฝงนี้มากกว่าระยะอื่น ซึ่งถ้าไม่รักษาจะสามารถถ่ายทอดไปสู่ทารกในครรภ์ได้
  4. ซิฟิลิส ระยะสาม เชื้อซิฟิลิสสามารถอยู่ในร่างกายได้นานเป็น 10-30 ปี ซึ่งในบางคน หากไม่รักษา หรือรักษาไม่ครบตามคำสั่งของแพทย์ เชื้อสามารถแพร่กระจายเข้าไปทำลายอวัยวะต่าง ๆ เช่น หัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท สมอง และลุกลามเข้ากระดูกได้ด้วย ส่งผลให้ร่างกายพิการ ตาบอด หูหนวก เป็นอัมพาต ขณะที่สมอง หัวใจ ตับ ไขสันหลัง อาจถูกทำลายจนไม่สามารถกลับเป็นปกติได้ และทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด

ถาม : ใครบ้างที่ควรตรวจซิฟิลิส ?

ตอบ : เมื่อรู้ตัวว่ามีอาการ หรือสงสัยว่าติดเชื้อซิฟิลิส ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย เพราะการรักษาตอนที่ยังเป็นระยะแรก จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าหากพบในระยะหลัง อาจจะรักษาให้หายขาดนั้นทำได้ยาก และต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานอีกด้วย ดังนั้นผู้ที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ควรรีบตรวจคัดกรอง

  • คนที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • คนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
  • คู่รักที่กำลังจะแต่งงาน หรือผู้หญิงที่เตรียมพร้อมจะมีบุตร
  • หญิงกำลังตั้งครรภ์ อาจตรวจเพื่อความมั่นใจว่าไม่มีเชื้อแฝงอยู่
  • คนที่มีอาการป่วยคล้ายกับโรคซิฟิลิส หรือคู่นอนของตัวเองมีอาการป่วยคล้ายกับโรคซิฟิลิส

ถาม : ซิฟิลิสป้องกันได้อย่างไร ?

ตอบ : ซิฟิลิสถึงแม้จะอันตรายแต่หากเรามีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ก็สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีเหล่านี้

  • ไม่มีเพศสัมพันธ์ หรือมีเพศสัมพันธ์เฉพาะคู่นอนของตัวเองเท่านั้น
  • ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนหลายคน
  • สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
  • ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่น
  • ชวนคนรักไปตรวจเลือด หากพบใครเป็นโรคนี้จะได้รักษาให้หายขาดก่อน

ถาม : ซิฟิลิสมีวัคซีนป้องกันไหม ?

ตอบ : ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันซิฟิลิส แต่เราสามารถป้องกันได้ โดยการมีคู่นอนคนเดียว สวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ก็ควรจะตรวจเช็คร่างกายบ่อย ๆ เพื่อจะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที

ถาม : ตรวจซิฟิลิสราคาเท่าไร?

ตอบ : การตรวจโรคซิฟิลิสมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ๆ และวิธีที่ใช้ตรวจ ดังนี้

“ChatLove2test"

คลินิกนิรนาม

  • ตรวจซิฟิลิสวิธี RPR มีอัตราค่าบริการ 100 – 200 บาท รอผล 1 ชั่วโมง
  • ตรวจซิฟิลิสวิธี treponemal test มีอัตราค่าบริการ 200 – 300 บาท รอผล 1 ชั่วโมง

คลินิกเอกชน

  • ตรวจแบบรวดเร็ว ตรวจแบบง่าย มีอัตราค่าบริการเริ่มต้น 500 บาท รอผล 15 นาที
  • ตรวจซิฟิลิส VDRL ประมาณ 100 – 300 บาท รอผล 1 ชั่วโมง
  • ตรวจแบบ RPR ประมาณ 100 – 300 บาท รอผล 1 ชั่วโมง
  • ตรวจแบบ TPHA ประมาณ 200-500 บาท รอผล 1 ชั่วโมง
  • FTA-ABS IgG มีอัตราค่าบริการเริ่มต้น ราคา 600 บาท รอผล 3 วัน
  • FTA-ABS IgM มีอัตราค่าบริการเริ่มต้น ราคา 600 บาท รอผล 3 วัน

โรงพยาบาลรัฐบาล

ขึ้นอยู่กับสิทธิประกันสังคม ประกันสุขภาพต่าง ๆ มี โดยอาจมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 50 – 500 บาท

“PrEPLove2test"

โรงพยาบาลเอกชน

ค่าใช้จ่ายในการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนจะแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล จึงควรติดต่อสอบถามรายละเอียดล่วงหน้าก่อนการเข้ารับการตรวจ

ถาม : ซิฟิลิสรักษาหายขาดไหม ?

ตอบ : หากตรวจพบเชื้อซิฟิลิส ตั้งแต่ระยะต้น ๆ จะสามารถรักษาให้หายได้แน่นอนโดยใช้ยาเพนิซิลลินฉีดเข้ากล้ามเนื้อร่วมกับการกินยา แต่หากติดเชื้อมานานแล้วจะมีการเพิ่มขนาดยาเพื่อให้การรักษาได้ผลมากขึ้น ซึ่งระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่เป็นด้วย โดยระหว่างรักษา ผู้ป่วยต้องปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และรับยาให้ครบกำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก : Sanook, Kapook, Doctorraksa

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม

Similar Posts

  • หูดหงอนไก่…ป้องกันได้อย่างไร ?

    หูดชนิดนี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก คือ ติดต่อได้จากผิวหนังสู่ผิวหนัง สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยมักพบในผู้ป่วยวัยหนุ่มสาว และวัยผู้ใหญ่  จะขึ้นที่บริเวณอวัยะเพศ สามารถพบได้ทั้งในชายและหญิง แต่จะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โรคหูดหงอนไก่ คืออะไร? โรคหูดหงอนไก่ (Genital warts, Condyloma acuminata) …

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ | Sexually Transmitted Diseases

    โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted diseases) หรือที่เรียกกันว่า กามโรค เป็นโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ โดยเชื้อโรคสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรงกับบริเวณที่ติดเชื้อ เช่น อวัยวะเพศ ช่องปาก ทวารหนัก หรือผ่านการสัมผัสกับของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำอสุจิ เลือด…

  • โรคหนองในเทียม Non Gonococcal Urethritis (NSU)

    โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือ กลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศกับคนที่เป็นโรค หรือคนที่ติดเชื้อ ทั้งจากการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทวารหนัก และสามารถติดต่อจากแม่สู่ทารกในครรภ์ ผ่านการถ่ายโอนเลือด หรือการใช้เข็มร่วมกันได้เหมือนกัน   โดยสามารแบ่งประเภทเชื้อที่เป็นต้นเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้น ๆ ได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส …

  • / /

    เพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเป็นไปได้หรือไม่ 

    เรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญของทุกคน การป้องกันก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน การมีเพศสัมพันธ์ ยังไงให้ปลอดภัย เพื่อการป้องกันและลดความเสี่ยงการติดต่อของโรคทางเพศสัมพันธ์ เพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (Safe Sex) คืออะไร  คือ การมีเซ็กซ์ หรือเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่ามีเพียงแค่การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่ความจริงแล้วการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยมีมากกว่านั้น อย่างเช่น…

  • ฝีที่อวัยวะเพศ รักษาอย่างไร?

    ฝีที่อวัยวะเพศ หมายถึงการรวมตัวของตุ่มหนองขนาดใหญ่ บริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อซึ่งเป็นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ส่งผลต่อสุขภาพต่างๆ ของร่างกายและกระทบต่อช่องคลอด อุ้งเชิงกราน องคชาต ทวารหนัก หรือถุงอัณฑะ ฝีที่อวัยวะเพศ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม หรือโรคซิฟิลิส เป็นต้น ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจนำไปสู่การพัฒนาของโรคฝีที่อวัยวะเพศ ได้แก่ สุขอนามัยทางเพศ ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง การบาดเจ็บหรือมีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ การอุดตันของต่อมเหงื่อ ทำให้มีอาการปวด บวม แดง รู้สึกเหมือนโดนกดทับ มีหนอง สารคัดหลั่ง และมีไข้ การดูแลทางการแพทย์อย่างทันท่วงที เป็นสิ่งจำเป็นในการวินิจฉัยรักษา และป้องกันภาวะแทรกซ้อนของฝีที่อวัยวะเพศ

  • ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C Virus : HCV)

    โรคไวรัสตับอักเสบ เป็นโรคที่พบได้บ่อยซึ่งโดยทั่วไปผู้ป่วยมักจะไม่ทราบมาก่อนว่าตนเองมีเชื้อไวรัสตับอักเสบนี้อยู่ในร่างกาย  เนื่องจากอาการของโรคไม่รุนแรง ไม่ชัดเจน ต่อเมื่อมีอาการตับอักเสบมากขึ้น ถ้าปล่อยไว้โดนไม่ทำการรักษาก็จะกลายเป็นตับแข็ง  และในที่สุดก็จะกลายเป็นมะเร็งตับได้ โดยวิธีการที่เราจะทราบว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบหรือไม่ ก็ต่อเมื่อไปตรวจร่างกายแล้วพบค่าการอักเสบของตับผิดปกติ และตรวจเลือดแล้วพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ไวรัสตับอักเสบซี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบซี คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดซี  (HCV)…