|

ฝีดาษวานร คืออะไร รู้ก่อน ป้องกันได้

ฝีดาษวานร หรือ Monkeypox เป็นโรคติดเชื้อที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นจากทั่วโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่และจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ฝีดาษวานรมีต้นกำเนิดจากสัตว์และแพร่สู่คนเป็นหลัก แต่การแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน นอกจากจะทำให้เกิดผื่นและแผลพุพองแล้ว อาการที่คล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว ยังเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญของโรคนี้ การเรียนรู้และเข้าใจฝีดาษวานรจะช่วยให้เราสามารถป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดได้ดียิ่งขึ้น

ฝีดาษวานรคืออะไร?

เนื้อหาสรุป

ฝีดาษวานรเกิดจากไวรัสที่มีชื่อว่า Monkeypox virus ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคฝีดาษคน (Smallpox) แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ฝีดาษวานรมีการแพร่กระจายส่วนใหญ่ในพื้นที่ของแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เริ่มมีการแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ ของโลกผ่านการเดินทางและการค้าสัตว์ป่า

Quicky

ไวรัสฝีดาษวานรสามารถแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนได้ โดยสัตว์ที่อาจเป็นพาหะนำโรคได้แก่ หนู ลิง และสัตว์ป่าที่ติดเชื้อ แต่การแพร่เชื้อจากคนสู่คนก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งจากร่างกายของผู้ติดเชื้อโดยการมีเพศสัมพันธ์ เช่น น้ำลาย สารน้ำจากตุ่มพุพอง หรือการสัมผัสผื่นและแผลของผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้การใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ผ้าปูที่นอนหรือผ้าเช็ดตัวที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส ก็สามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแพร่กระจายเชื้อได้

ฝีดาษวานรในไทย

ในปี 2565 โรคฝีดาษวานรเริ่มเป็นที่สนใจในประเทศไทย เมื่อมีการรายงานผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อไวรัสนี้ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศจากทวีปยุโรป จากการพบผู้ติดเชื้อรายแรกนี้ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขไทยได้เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังโรคนี้อย่างเข้มงวด

ฝีดาษวานรในไทยส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อในต่างประเทศแล้วนำกลับเข้ามาแพร่ในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น หลังการระบาดของโควิด-19 ไทยจึงเฝ้าระวังโรคนี้อย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายที่อาจเกิดขึ้นจากผู้เดินทางที่ติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการชัดเจน

กรมควบคุมโรค (Department of Disease Control) ได้ออกมาตรการเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศที่มีการระบาดของฝีดาษวานร นอกจากนี้ยังมีการคัดกรองผู้ที่มีอาการต้องสงสัย เช่น

  • ไข้สูง
  • ผื่นพุพอง
  • แผลที่ผิวหนัง

เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายต่อไป นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงสุขอนามัยส่วนบุคคล การป้องกันตนเอง และการใช้วัคซีนในกลุ่มเสี่ยง

“ChatLove2test"

อาการของฝีดาษวานร

อาการของฝีดาษวานรจะแบ่งเป็นสองระยะ ระยะแรกคืออาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดหัว ปวดหลัง หนาวสั่น และต่อมน้ำเหลืองบวม ซึ่งอาการเหล่านี้คล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป หลังจากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะเริ่มมีผื่นขึ้นที่ใบหน้า ลำตัว และแขนขา ผื่นเหล่านี้จะพัฒนาไปเป็นตุ่มนูนแดง ตุ่มน้ำ และกลายเป็นตุ่มหนอง จากนั้นตุ่มหนองจะแห้งและลอกออกไป

ฝีดาษวานร

ผื่นและตุ่มพุพองนี้เป็นลักษณะเฉพาะของฝีดาษวานร ซึ่งสามารถปรากฏทั่วร่างกาย ไม่เพียงแค่ใบหน้าหรือลำตัว และอาจสร้างความเจ็บปวดหรืออักเสบได้ อาการมักจะหายไปเองภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่ในบางกรณี โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคนี้อาจมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องได้รับการรักษา

ฝีดาษวานร ป้องกันได้

ฝีดาษวานร

การป้องกันฝีดาษวานรไม่ใช่เรื่องยาก หากเรารู้ข้อมูลและปฏิบัติตามแนวทางป้องกันที่ถูกต้อง ฝีดาษวานรสามารถป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อหรือมีอาการสงสัย นอกจากนี้ยังควรปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี เช่น การล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือการใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือเมื่อไม่สะดวกล้างมือด้วยน้ำ การหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าปูที่นอนหรือผ้าเช็ดตัว ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

นอกจากนี้ หน่วยงานสาธารณสุขยังแนะนำให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพของตนเอง โดยหากมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อย หรือมีผื่นขึ้นผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด

“PrEPLove2test"

การฉีดวัคซีนป้องกัน ฝีดาษวานร

ฝีดาษวานร

ปัจจุบันมีวัคซีนบางชนิดที่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานรได้ วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษคน (Smallpox) ซึ่งเคยใช้ในการกำจัดโรคฝีดาษในคนเมื่อหลายสิบปีก่อน มีประสิทธิภาพในการป้องกันฝีดาษวานรได้เช่นกัน เนื่องจากไวรัสทั้งสองชนิดมีความคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม วัคซีนนี้ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องฉีดในทุกคน โดยปกติจะถูกแนะนำให้ใช้เฉพาะในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการวิจัยไวรัสเท่านั้น

สำหรับประชาชนทั่วไป การป้องกันตนเองจากการสัมผัสเชื้อและการเฝ้าระวังสุขภาพตัวเองถือเป็นวิธีที่สำคัญที่สุด

การป้องกันและรับมือฝีดาษวานรในอนาคต

แม้ว่าปัจจุบันฝีดาษวานรจะยังไม่เป็นโรคที่แพร่ระบาดอย่างกว้างขวางในประเทศไทย แต่มาตรการป้องกันและการเตรียมพร้อมรับมือยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากโรคนี้มีโอกาสแพร่ระบาดไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้จากการเดินทางระหว่างประเทศ ในอนาคตหากการแพร่ระบาดของฝีดาษวานรยังคงมีอยู่ หน่วยงานสาธารณสุขจะต้องมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

การให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอแก่ประชาชนเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความวิตกกังวลเกินเหตุ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ประชาชนสามารถปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ในระยะยาว การวิจัยเกี่ยวกับไวรัสฝีดาษวานร รวมถึงการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค จะช่วยให้มนุษยชาติสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การพัฒนาทางการแพทย์และสาธารณสุขและการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฝีดาษวารนรจะเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อต่าง ๆ ในอนาคต

Similar Posts

  • อาการตกขาว ผิดปกติของผู้หญิง

    อาการตกขาว เป็นของเหลวที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยทำความสะอาด ชุ่มชื้น และป้องกันช่องคลอดจากการติดเชื้อต่างๆ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงทุกคนควรสังเกตสีของ อาการตกขาว เป็นอย่างมาก เนื่องจากสีของ อาการตกขาว สามารถบ่งบอกถึงการผิดปกติของร่างกายได้ โดยปกติแล้ว สีของการตกขาวจะเป็นสีขาว ใส หรือเล็กน้อยที่มีความขุ่นอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น…

  • ความเข้าใจผิดเรื่อง โรคติดต่อทางเพศ

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ โรคติดต่อทางเพศ มักจะนำไปสู่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และการตีตรา ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ คนที่สําส่อนเท่านั้นจะสามารถติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ในความเป็นจริง ใครก็ตามที่มีกิจกรรมทางเพศก็อาจมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ความเข้าใจผิดอีกประการหนึ่งคือ โรคติดต่อทางเพศ สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นเริมและไวรัสเอชพีวีสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง หรือแผลเริมได้ นอกจากนี้ บางคนยังเชื่อว่า หากไม่แสดงอาการก็ไม่ติดเชื้อเพราะ โรคติดต่อทางเพศ หลายชนิดแทบไม่แสดงอาการเลย ดังนั้นการตรวจหาเชื้ออย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงควรให้เรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเหล่านี้ที่ถูกต้องเพื่อขจัดความเข้าใจผิดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

  • /

    รอบรู้เรื่องถุงยางอนามัย

    ถุงยางอนามัยมีความสำคัญในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการคุมกำเนิด ในปัจจุบัน มีถุงยางอนามัยให้เลือกใช้ ทั้งแบบสำหรับสตรีและแบบสำหรับบุรุษ  ถุงยางอนามัยคือ? ถุงยางอนามัย (Condom) มาจากภาษาละติน แปลว่า ภาชนะที่รองรับ ทำด้วยวัสดุจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน โดยฝ่ายชายเป็นฝ่ายใช้สวมครอบอวัยวะเพศของตนเอง  และเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้เป็นอันดับต้นๆ สำหรับช่วยป้องกันการคุมกำเนิด…

  • / /

    เพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเป็นไปได้หรือไม่ 

    เรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญของทุกคน การป้องกันก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน การมีเพศสัมพันธ์ ยังไงให้ปลอดภัย เพื่อการป้องกันและลดความเสี่ยงการติดต่อของโรคทางเพศสัมพันธ์ เพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (Safe Sex) คืออะไร  คือ การมีเซ็กซ์ หรือเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดว่ามีเพียงแค่การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่ความจริงแล้วการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยมีมากกว่านั้น อย่างเช่น…

  • ฝีที่อวัยวะเพศ รักษาอย่างไร?

    ฝีที่อวัยวะเพศ หมายถึงการรวมตัวของตุ่มหนองขนาดใหญ่ บริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อซึ่งเป็นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ส่งผลต่อสุขภาพต่างๆ ของร่างกายและกระทบต่อช่องคลอด อุ้งเชิงกราน องคชาต ทวารหนัก หรือถุงอัณฑะ ฝีที่อวัยวะเพศ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม หรือโรคซิฟิลิส เป็นต้น ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจนำไปสู่การพัฒนาของโรคฝีที่อวัยวะเพศ ได้แก่ สุขอนามัยทางเพศ ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง การบาดเจ็บหรือมีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ การอุดตันของต่อมเหงื่อ ทำให้มีอาการปวด บวม แดง รู้สึกเหมือนโดนกดทับ มีหนอง สารคัดหลั่ง และมีไข้ การดูแลทางการแพทย์อย่างทันท่วงที เป็นสิ่งจำเป็นในการวินิจฉัยรักษา และป้องกันภาวะแทรกซ้อนของฝีที่อวัยวะเพศ

  • หูดหงอนไก่…ป้องกันได้อย่างไร ?

    หูดชนิดนี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก คือ ติดต่อได้จากผิวหนังสู่ผิวหนัง สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยมักพบในผู้ป่วยวัยหนุ่มสาว และวัยผู้ใหญ่  จะขึ้นที่บริเวณอวัยะเพศ สามารถพบได้ทั้งในชายและหญิง แต่จะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โรคหูดหงอนไก่ คืออะไร? โรคหูดหงอนไก่ (Genital warts, Condyloma acuminata) …