ความจริงแล้ว การตรวจเอชไอวีสามารถทำได้ทันที โดยที่เราไม่จำเป็นต้องรอให้มีความเสี่ยงเสียก่อนถึงจะไปตรวจเลือด ถ้าหากคุณยังไม่เคยตรวจคัดกรองไวรัสเอชไอวีมาก่อน ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะรู้สถานะของตนเอง เพราะการตรวจเอชไอวีมีข้อดีมากมาย เช่น ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไวรัสเอชไอวี โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ จากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทำให้เราสามารถป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้อง และคงสถานะปลอดเชื้อตลอดไป
สำหรับผู้ที่ตรวจแล้วพบเชื้อ ก็จะสามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย ลดโอกาสในการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น อีกทั้งยังสามารถวางแผนครอบครัวได้ต่อไปในอนาคตอีกด้วยครับ
ตรวจเอชไอวี เมื่อไหร่ ?
เนื้อหาสรุป
- ตรวจเอชไอวี เมื่อมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย
- ตรวจเอชไอวี เมื่อคุณมีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง
- ตรวจเอชไอวี เมื่อมีการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
- ตรวจเอชไอวี เมื่อเกิดอุบัติเหตุเข็มทิ่มตำ มีดบาด กรณีที่เป็นบุคลากรการแพทย์
- ตรวจเอชไอวี เมื่อต้องการแต่งงาน มีครอบครัวหรือวางแผนมีบุตร
- ตรวจเอชไอวี เมื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ
- ตรวจเอชไอวี เมื่อตรวจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
การตรวจเอชไอวี แบ่งตามระยะเวลาของความเสี่ยง หรือระยะฟักตัว (Window Period) ของเชื้อ หากระยะเวลาไม่ถึงอาจตรวจไม่เจอเชื้อเอชไอวี จึงควรมั่นใจหรือจำให้ได้ว่าคุณมีความเสี่ยงครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ เพื่อที่แพทย์จะได้พิจารณาเลือกวิธีการตรวจเอชไอวีที่เหมาะสมกับคุณ และให้ผลที่แม่นยำ
ระยะฟักตัว (Window Period) คืออะไร ?
ระยะฟักตัว อธิบายอย่างง่าย ๆ คือ ช่วงระยะเวลาที่คุณอาจจะได้รับเชื้อเอชไอวีมา แต่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยังไม่ขึ้นถึงระดับที่จะสามารถตรวจพบเชื้อได้ คล้ายกับว่าร่างกายอาจมีเชื้อแล้วแต่ระบบภูมิคุ้มกันของคุณยังไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นในระยะฟักตัวเราจึงตรวจไม่เจอเชื้อนั่นเอง ส่วนใหญ่แล้ว ภูมิคุ้มกันของเราจะมีปฏิกิริยาต่อเชื้อเอชไอวีประมาณ 2-3 สัปดาห์ขึ้นไป เราจึงจำเป็นรอระยะเวลาก่อน และในแต่ละคนก็มีการตอบสนองต่อเชื้อด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไปด้วยครับ
ตรวจเอชไอวี มีกี่แบบ และรอระยะฟักตัวกี่วัน
การตรวจเอชไอวีในปัจจุบัน มีอยู่ วิธี โดยแบ่งออกเป็นวิธีต่าง ๆ ดังนี้
วิธีตรวจเอชไอวี | ระยะฟักตัว (วัน) | รู้ผล |
---|---|---|
NAT | 5-7 | 5-7 วัน |
HIV Gen 4th | 14 | 1-2 ชม. |
Anti-HIV | 30 | 1-2 ชม. |
- การตรวจเอชไอวี แบบหาสารพันธุกรรมของเชื้อ (NAT)
ระยะฟักตัวตั้งแต่ 5-7 วันขึ้นไป วิธีนี้ถือเป็นการตรวจเอชไอวีที่รวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง สามารถรู้ผลได้ 5-7 วันหลังจากทำการตรวจ โดยขึ้นอยู่กับระบบการทำงานของแต่ละสถานพยาบาล ซึ่งการตรวจแบบนี้ แพทย์จะแนะนำให้กลับมาตรวจซ้ำอีกครั้งหลังจากนี้ 1-3 เดือน เพื่อยืนยันผล
- การตรวจเอชไอวีแบบ HIV Ag/Ab (Gen 4th)
ระยะฟักตัวตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป วิธีนี้เป็นการตรวจเอชไอวีด้วยการใช้น้ำยา Gen 4th ซึ่งเป็นการพัฒนาของการตรวจเอชไอวีแบบหาภูมิต้านทาน (Antibody) และการตรวจเอชไอวีแบบหาโปรตีนจำเพาะของเชื้อ (Antigen) รวมอยู่ในน้ํายาเดียวกัน สามารถรู้ผลได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง หลังจากทำการตรวจ โดยขึ้นอยู่กับระบบการทำงานของแต่ละสถานพยาบาล
- การตรวจเอชไอวีแบบหาภูมิต้านทาน (Anti-HIV)
ระยะฟักตัวตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป วิธีนี้ได้รับความนิยมในสถานพยาบาลทั่วไป และมักจะเป็นวิธีที่ใช้ตรวจซ้ำอีกครั้ง หลังจากเคยตรวจทั้งสองแบบแรกมาแล้ว สามารถรู้ผลได้ภายในวันเดียวเช่นกันกับการตรวจแบบน้ำยา Gen 4th
ตรวจเอชไอวี งดอาหารไหม?
= สามารถตรวจได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องงดน้ำ หรืออาหาร
เพิ่งเสี่ยงมาวันนี้ ตรวจเอชไอวีเลยได้ไหม?
= สามารถตรวจได้ แต่ผลตรวจที่ได้จะเป็นของความเสี่ยงก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ผลของวันนี้ที่เพิ่งเสี่ยงมา เพราะฉะนั้นคุณควรรอระยะฟักตัวก่อน จึงไปตรวจ หรือปรึกษาแพทย์ในเรื่องยาเป๊ป (PEP) ยาต้านไวรัสฉุกเฉินที่ทานเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี ภายใน 72 ชั่วโมง
ทานยาแก้ปวดอยู่ มีผลต่อค่าเลือดหรือไม่?
= ยาแก้ปวดไม่มีผลต่อค่าเลือดในการตรวจเอชไอวี สิ่งที่มีผลต่อค่าเลือด คือความเสี่ยงที่คุณมี และระยะฟักตัว รวมถึงการเลือกใช้วิธีตรวจของแพทย์
ทานยาต้านไวรัสฉุกเฉิน (ยา PEP) ยังไม่ครบเดือน ตรวจเอชไอวี มีผลอะไรไหม?
= ยา PEP ควรทานให้ครบ 28 วันหรือตามแพทย์สั่ง แล้วจึงค่อยตรวจเอชไอวี ระหว่างที่ทานยาอยู่ หากตรวจเอชไอวี ตัวยาก็ไม่ส่งผลต่อการตรวจแต่อย่างใดครับ
สุดท้ายแล้ว การตรวจเอชไอวีมีประโยชน์มากมาย และในปัจจุบันยังเป็นเรื่องที่ดี และเป็นการใส่ใจในสุขภาพทางเพศของตัวเองด้วย รวมทั้งยังสามารถใช้สิทธิในการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ฟรีปีละ 2 ครั้งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย โรงพยาบาลรัฐ และหน่วยบริการตามสิทธิ ซึ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ตรวจคัดกรองเอชไอวี รู้เช่นนี้แล้ว การตรวจเอชไอวีจึงไม่น่ากลัวอย่างที่เข้าใจผิดกันไป หากไม่กล้าตรวจเมื่อมีความเสี่ยง โอกาสในการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยต่อไป หรือโอกาสในการเข้าสู่กระบวนการรักษาก็ลดลง เพราะฉะนั้นตรวจเอชไอวีกันเถอะนะครับเพื่อสุขภาพทางเพศที่ปลอดภัยต่อโรคของทุกคน