วิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่าคุณมีเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือไม่ ก็คือการตรวจเลือดเท่านั้น ปัจจุบันขั้นตอนการตรวจเอชไอวี ไม่มีความซับซ้อนยุ่งยากแต่อย่างใด แถมยังรู้ผลเร็ว ประหยัดเวลา ประหยัดเงินอีกด้วย เพราะคนไทยมีสิทธิตรวจฟรีปีละ 2 ครั้ง รวมทั้งน้อง ๆ วัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ก็สามารถตรวจเอชไอวีได้ ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองแต่อย่างใด เพราะสิ่งที่จะทำให้เรายุติปัญหาเอชไอวีได้ดีที่สุด คือการรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจเลือดนั่นเองครับ
ตรวจเอชไอวี ง่ายนิดเดียว!
เนื้อหาสรุป
การตัดสินใจตรวจเลือด นอกจากที่เราจะรู้สถานะเอชไอวีของตัวเองแล้ว ยังได้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เชื้อไวรัสเอชไอวี และโรคเอดส์ที่ถูกต้องมากกว่าการหาอ่านข้อมูลทั่วไปในอินเตอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม การไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ด้านนี้โดยเฉพาะจะทำให้เราเข้าใจมันมากขึ้น โดยขั้นตอนการตรวจเอชไอวี มีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ | รายละเอียด |
1 | ลงทะเบียน |
2 | ปรึกษาก่อนตรวจ |
3 | ตรวจเลือด |
4 | ปรึกษาหลังตรวจและแจ้งผลเลือด |
ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจ
ติดต่อสถานพยาบาลที่คุณสะดวก เพื่อทำการลงทะเบียนเข้ารับการตรวจเอชไอวี อาจมีการนัดหมายวันและเวลาล่วงหน้ามาก่อน ขึ้นอยู่กับกระบวนการทำงานของแต่ละแห่ง นอกจากนี้ หากเป็นหน่วยงานของรัฐ คุณจำเป็นจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิตรวจฟรี ทั้งนี้ ข้อมูลต่าง ๆ จะถูกเก็บเป็นความลับ ซึ่งเป็นนโยบายในการตรวจเอชไอวีตามหลักสากล จากนั้น รอเรียกตามคิวตรวจ ซึ่งการตรวจเลือดแบบนี้ ผู้ตรวจไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหารแต่อย่างใด
เข้ารับคำปรึกษาก่อนตรวจ
ก่อนทำการตรวจเอชไอวี ผู้ตรวจจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อประเมินถึงความเสี่ยงต่อเชื้อไวรัสเอชไอวี และอีกเช่นกัน ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้เป็นความลับ และไม่มีการตัดสินพฤติกรรมของผู้ตรวจจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ขอให้คุณทำใจให้สบาย ผ่อนคลาย และอธิบายถึงเหตุการณ์ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริง ไม่ควรปิดบัง เพื่อประโยชน์สูงสุดกับตัวคุณเอง ที่จะได้คลายข้อกังวล ข้อสงสัย และได้คำตอบที่ชัดเจน หลังจากนั้น จะมีการเซ็นชื่อเพื่อให้ความยินยอมในการตรวจเอชไอวี ว่าไม่ได้มีใครบังคับให้มาตรวจ และขั้นตอนการเข้ารับคำปรึกษาจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที – ครึ่งชั่วโมงแล้วแต่กรณีของผู้ตรวจแต่ละคน
เจาะเลือดตรวจเอชไอวี
หลังจากเข้ารับคำปรึกษาเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จึงจะทำการเจาะเลือดของคุณด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาเป็นอย่างดี เพื่อนำเลือดของคุณจำนวนหนึ่งไปทำการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวี ส่วนใหญ่แล้ว คุณสามารถรู้ผลเลือดได้ภายในวันเดียว หรือตามรูปแบบการตรวจเอชไอวีของแต่ละสถานพยาบาล สามารถสอบถามได้ในตอนที่เข้ารับคำปรึกษา หรือโทรสอบถามก่อนเข้ารับการตรวจ
เข้ารับคำปรึกษาหลังตรวจ
หลังจากเจาะเลือดเสร็จแล้ว แพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะให้คำปรึกษาอีกครั้ง เช่น อธิบายถึงความหมายของผลเลือดแบบต่าง ๆ พูดคุยเกี่ยวกับการวางแผนดูแลตัวเอง แผนการใช้ชีวิต ประเมินสภาวะจิตใจหากผู้ตรวจมีผลเลือดบวก หรือหากไม่มีเชื้อ เจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำการทำอย่างไรให้ผลเลือดเป็นลบได้ตลอดไป
ฟังผลตรวจเอชไอวี
ผลเลือดเอชไอวีนั้นแบ่งออกเป็น 2 ผลหลัก ดังต่อไปนี้
- ผลเลือดลบ (non-reactive) หมายถึง คุณไม่มีเชื้อไวรัสเอชไอวี แพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันเอชไอวี การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย การใช้ถุงยางอนามัย ยาเพร็พ (PrEP) พร้อมกับแนะนำให้ผู้ตรวจกลับมาตรวจเอชไอวีอีกครั้ง
- ผลเลือดบวก (reactive) หมายถึง คุณมีเชื้อไวรัสเอชไอวี แพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการรักษา การตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติม การทานยาต้านไวรัส รวมถึงการดูแลตัวเองให้อยู่ร่วมกับเชื้ออย่างแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย
กล่าวคือ ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ไม่เสียชีวิตทันที หากเข้าสู่กระบวนการ การรักษาที่รวดเร็ว ทานยาต้านไวรัสอย่างมีวินัย ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่เสี่ยงรับเชื้อมาเพิ่ม ก็สามารถมีชีวิตยืนยาวได้เหมือนคนทั่วไปที่ไม่มีเชื้อเลย ในทำนองเดียวกัน ผู้มีเชื้อสามารถทำงาน มีครอบครัว มีบุตรได้ และไม่ป่วยเป็นโรคฉวยโอกาส หรือโรคเอดส์
สรุปได้ว่า การตรวจเอชไอวี ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ไม่อยากให้คิดว่าการตรวจเลือดเป็นเรื่องน่ากลัว หรือเรื่องน่าอาย เพราะหากคุณรู้ผลเลือดเร็ว ก็จะทำให้คลายความกังวลใจ ทั้งนี้หากคุณทำการตรวจเอชไอวีมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็ควรตรวจซ้ำอีกครั้ง หลังจากมีความเสี่ยงในระยะเวลา 3-6 เดือน เพื่อยืนยันผลที่แน่นอน เลิกปิดกั้นตัวเองแล้วหันมารักษาสุขภาพทางเพศของคุณ ด้วยการตรวจเอชไอวีอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งกันเถอะครับ